รีวิวบ้าน
รีวิวบ้าน
รีวิวบ้าน หลายคนมีความเชื่อในเรื่องของ ฮวงจุ้ย โดยเฉพาะในที่พักอาศัยการจัดตำแหน่งที่อยู่ให้ตรงตามหลักของฮวงจุ้ยนั้น อาจช่วยเสริมดวงให้กับผู้อยู่อาศัยมีความสบายใจ หรือหากมองให้เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ ควรออกแบบตกแต่งบ้านให้ผู้อยู่รู้สึกว่าบ้านหลักนั้นน่าอยู่ อยู่แล้วรู้สึกไม่อึดอัด มีความรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ เมื่อได้อยู่ในบ้านหลังนั้นๆ วิธีที่จะให้ได้บ้านดีที่สุดนั้น เจ้าของบ้านบางคนก็เริ่มปรึกษาฮวงจุ้ยกับซินแสตั้งแต่การเลือกที่ดินกันเลย คือเลือกทำเลที่มีชัยภูมิดีแล้วค่อยมาสร้างบ้านให้รับกับกระแสพลังงานที่มาจากสภาพแวดล้อม งานการออกแบบบ้านจึงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่าชัยภูมิหรือทำเล เพราะถ้าออกแบบบ้านแล้วไม่รับกับพลังดีๆ ก็น่าเสียดาย เมื่อแบบบ้านเสร็จควรปรึกษาซินแสก่อนลงมือก่อสร้าง เพราะหากมีการแก้ไขก็สามารถแก้จากแบบแปลนได้ เพราะสะดวกกว่า ไม่ยุ่งยากและไม่สิ้นเปลืองด้วย โครงการ
6 ลักษณะแบบบ้านที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย
1. โครงสร้างแข็งแรงมั่นคง
งานการออกแบบบ้านต้องให้ความรู้สึกที่มั่นคง โครงสร้างบ้านมีผลทางฮวงจุ้ยในเรื่องของสุขภาพของกระดูกและโครงสร้างกระดูกของคนในบ้าน งานออกแบบที่มั่นคงและสมดุลช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรค เช่น โรคกระดูกและอัมพฤกษ์ อัมพาต
2. ประตู-หน้าต่างสามารถรับลมได้เต็มที่
ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ลมจะพัดมาจากทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้เป็นหลัก การออกแบบหน้าต่างหันไปกับทิศดังกล่าว ทำให้สามารถรับลมซึ่งเป็นโชคของบ้านได้อย่างเต็มที่
3. พื้นที่รอบๆ บ้านทำสโลปเทเข้า
เป็นวิธีชักนำกระแสพลังจากผิวดินมาสู่ตัวบ้าน เพราะอากาศก็มีน้ำหนักเทจากสูงลงต่ำหรือฝนตกลงมาก็สามารถชักนำกระแสน้ำจากสายฝนวิ่งเข้าหาตัวบ้านได้ด้วย ถ้าทำแบบนั้นไม่ได้อย่างน้อยๆ ก็ไม่ควรทำสโลปด้านหน้าบ้านในลักษณะที่เทออกนอกตัวอาคาร ซึ่งในภาษาฮวงจุ้ยเรียกกันว่า “เหม่งตึ๊ง” หรือโถงสว่าง ซึ่งหมายถึงสถานที่สะสมเงินทองนั่นเอง
4. ห้ามสร้างด้านหลังจนชิดพื้นที่
เพราะกฎพื้นฐานของบ้านฮวงจุ้ยดีคือลมต้องพัดเข้าและมีอากาศถ่ายเทได้ และบางองศาทิศทางเมื่อคำนวณแล้วพบว่าทางด้านหลังบ้านก็เป็นกระแสโชคหลักได้เช่นกัน แต่ถ้าต่อเติมจนติดขอบด้านหลังบ้านและไม่มีทางระบายลมออก จะทำให้พลังงานไหลเวียนมาเลี้ยงส่วนหลังบ้านไม่ถึง ฉะนั้นถ้าจำเป็นต้องต่อเติมควรมีช่องระบายอากาศด้วย
5. ไม่มีส่วนเว้าแหว่ง มีซอกหลืบให้น้อยๆ
บ้านที่เว้าแหว่งเป็นผลเสียต่อสุขภาพของคนในบ้าน โดยถ้ามองออกไปด้านหน้าบ้านแล้วฝั่งซ้ายหรือที่เรียกว่าฝั่ง “มังกรเขียว” เว้าแหว่ง ผลเสียก็จะเกิดขึ้นกับฝ่ายชาย แต่ถ้าเว้าแหว่งทางขวาที่เรียกว่าฝั่ง “เสือขาว” จะเสียหายกับผู้หญิงในบ้าน ส่วนบ้านที่มีซอกหลืบมากๆ พลังของแต่ละห้องก็จะบิดเบี้ยวไม่สมดุลคล้ายมีดอีโต้ ไม่เป็นผลดีต่อผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังเปลืองเนื้อที่โดยเปล่าประโยชน์และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ยากอีกด้วย
6. ฝ้าเพดานสูงๆ
เนื่องจากฝ้าเพดานยิ่งสูงยิ่งทำให้มีเนื้ออากาศเข้ามามาก เกิดความเย็นสบาย ปลอดโปร่ง โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียวฝ้าเพดานสูงๆ เป็นเรื่องจำเป็นมาก ไม่เช่นนั้นบ้านจะร้อนมาก เพราะหลังคาจะต้องอมความร้อนอยู่ตลอดทั้งวัน สำหรับความสูงควรสูงเท่าไรจึงเหมาะสม ขอตอบว่ายิ่งสูงยิ่งดี หรืออย่างน้อยควรมากกว่า 2.7 เมตร
ที่กล่าวมาเป็นแนวทางสำหรับการออกแบบบ้านตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีรับรองว่าทำตามแล้วจะมีชีวิตที่รุ่งเรืองแน่นอน แต่เรื่องการออกแบบยังต้องให้รับกับองศาทิศทาง ซึ่งต้องให้ซินแสผู้เชี่ยวชาญไปให้คำปรึกษาจะดีที่สุด
39 สิ่งในการออกแบบตกแต่งบ้านที่ไม่ควรทำ
- บ้านที่สร้างใหม่ด้านข้างแม้เป็นบ้านชั้นเดียว ต้องมีความสูงอย่างน้อย 2 ใน 3 ของบ้านหลังแรก หรือสูงเท่ากันในกรณีบ้านสองชั้น
- ส่วนหน้าบ้าน และส่วนหลังบ้านอย่างน้อยต้องให้มีความสูงเท่ากัน หรือส่วนหลังบ้านต้องสูงกว่าหน้าบ้าน
- รอบบ้านทั้งสองหลังต้องมีทางเดินได้รอบทั้งสองหลัง ห้ามมีสิ่งขีดขวาง และกว้างอย่างน้อย 1 เมตร ห้ามปลูกต้นไม้ขวางทางเดิน
- ห้ามมีประตู 3 บานตรงกัน แม้เหลื่อมกันเพียงนิดเดียวก็ไม่ได้
- ห้ามใช้กระจกที่ทึบแสง และทำให้ภายในบ้านมืดครึ้ม ทำให้ต้องเปิดไฟอ่านหนังสือ แม้เป็นเวลากลางวัน ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดี
- ส้วมทุกโถต้องหันไปหลังบ้าน หรือหันข้างบ้านเท่านั้น
- ห้ามเชื่อมบ้านสองหลังเข้าด้วยกัน แม้แต่ทางเดินที่อยู่ใกล้กัน ก็ให้เว้นไว้อย่างน้อย 1 คืบ
- บันไดเข้าบ้านให้หันหน้าไปทางที่จอดรถ
- น้ำตกอยู่ผิดตำแหน่งไม่ควรมี ให้ใช้วิธีตั้งอ่างบัวที่มุมรั้วใกล้ Terrace แทน กับมุมบันไดที่จะขึ้น Terrace แทน ในตำแหน่งขวามือเวลาหันหน้าเข้าบันได
- ภายในบ้าน ต้องไม่มีห้องมืด อับแสง หรืออับลม และไม่มีห้องอับชื้น
- กำแพงด้านตะวันตก ต้องกันความร้อนได้ดี ควรให้หนาเข้าไว้ หรือใช้วัสดุกันความร้อน เพื่อป้องกัน ความร้อนที่เกิดขึ้นจากแสงอาทิตย์ทางด้านทิศตะวันตก
- ห้ามปลูกต้นไม้ยืนต้นสูงใหญ่ใกล้ชิดตัวบ้าน โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้าน และตรงกับประตูห้ามเด็ดขาดู ให้ปลูกได้เฉพาะไม้พุ่ม ความสูงไม่เกินเอวของเจ้าของบ้าน
- บริเวณด้านใต้จะเป็นทิศที่ลมเข้ามา ตัวบ้านหลังใหม่มีห้องน้ำขวางกัน ดังนั้นให้แก้ด้วยการเปิดหน้าต่างรับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่ห้องนอน นอกจากเป็นบานเลื่อนก็เปิดจากซ้ายไปขวา ส่วนห้องทำงานหากเป็นบานแบบเปิดปิดสามารถเปิดไปทางหน้าบ้านได้ สำหรับบานเลื่อนเปิดได้ตามความสวยงาม
- หากเป็นบ้านสองชั้นบันไดต้องทอดจากหลังบ้านขึ้นไปทางหน้าบ้าน ลักษณะเดินขึ้นทางหลังบ้านเดินขึ้นไปทางหน้าบ้าน และควรสร้างฝากับประตูป้องกันไม่ให้คนมองเห็นบันไดจากด้านนอก และอย่าให้มืด หรืออับลม ต้องมีช่องลมระบายกับช่องแสงด้วย และห้ามเป็นบันไดเปลือย อยู่นอกตัวอาคารแบบบันไดหนีไฟ หากจะเป็นบันไดเปลือย อย่างน้อยต้องมีเครื่องขีดขวางเช่น เหล็กดัดแนวยาวจากบนลงล่าง กันคนปีนขึ้น
- การสร้างบ้านทั้งภายในและภายนอก ควรให้มีเหลี่ยมมุมน้อยที่สุดโดยเฉพาะที่นอน กับโต๊ะนั่งทำงาน ห้ามมิให้มีเหลี่ยมมุม มุมเสาชี้มาเป็นอันขาด หากมีคานพาดผ่านต้องทำฝ้าเพดานปิดให้เรียบ และมีระดับเท่ากันทั้งหลัง
- พื้นบ้านต้องให้มีระดับเท่ากันตลอด ห้ามเล่นระดับ
- ท่อน้ำให้เข้าบ้านทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือเข้าทางด้านซ้ายมือของตัวบ้านเมื่อหันหน้าออกจากตัวบ้าน
- ท่อระบายน้ำให้อยู่ด้านหน้าบ้าน แต่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับท่อน้ำเข้า ระบายน้ำทิ้งไปทางหน้าบ้าน หรือออกทางด้านขวามือของตัวบ้านเมื่อหันหน้าออกจากตัวบ้าน
- ห้ามมีเสากลางบ้าน หากมีต้องติดกระจกรอบทั้งสี่ด้าน ความสูงอย่างน้อยต้องเท่ากับความสูงของขอบหน้าต่างด้านบน ส่วนด้านล่างกระจกเท่ากับขอบหน้าต่างด้านล่าง หรือติดตลอดความสูงของเสา
- เมื่อเข้ามาอยู่อย่ามี ตู้ โต๊ะ เตียง ข้าวของเครื่องใช้มากเกินไป พยายามให้บ้านโล่งๆ ไว้ ความรู้สึกคล้ายกับโบสถ์ หรือวิหาร และบ้านห้ามรก มีของเกะกะ มองเข้ามาจากภายนอก ต้องให้คล้ายๆ มีข้าวของเครื่องใช้น้อย พยายามจัดกลางบ้านให้โล่ง ใช้เฟอร์นิเจอร์เตี้ยๆ วางกลางบ้าน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่สูงๆ ไว้ตามขอบๆ ห้อง พูดง่ายๆ จัดลักษณะเหมือนอ่างน้ำ เป็น slope ลงมาที่กลางบ้าน
- ประตูห้องน้ำห้ามมิให้ไปตรงกับเตียงนอน ลักษณะพุ่งชนเตียงนอน
- ประตูจากห้องทำงาน ห้ามไม่ให้พุ่งชนกับเตียงเหมือนกัน แม้ประตูอื่นๆ ก็ควรเว้นไม่ให้พุ่งชน
- ประตูห้องทำงานถ้าเป็นบ้านชั้นเดียวให้เปิดจาก Terrace ตรงกลางของบ้าน ถ้าเป็นสองชั้นประตูอยู่ด้านล่างให้เปิดตำแหน่งเดียวกัน
- ห้องนอนหากตู้เสื้อผ้าเป็นแบบ built in ห้ามมีกระจกเงาพุ่งชี้มาที่เตียง
- เตียงนอนห้ามไม่ให้กระจกเงา หรือทีวี หรือวัสดุที่เกิดเงา พุ่งมาที่ตัวคนนอนอยู่
- เตียงนอนห้ามไม่ให้มีคานพาดผ่าน
- เตียงนอนห้ามไม่ให้มีมุมเสา มุมตู้ หรือมุมแหลมใดๆ ชี้มาที่เตียงนอน
- ห้ามนอนหันหัว หรือหันเท้าออกไปทางหน้าบ้าน
- เตียงนอนทุกเตียงในบ้าน ต้องนอนหันเท้าเข้ากลางบ้าน ดังนั้นห้องนอนที่อยู่ตรงข้ามกันก็จะหันเท้าเข้าหากัน
- ผู้อาวุโสมากต้องนอนส่วนด้านหลังบ้าน และผู้ที่อาวุโสน้อยกว่าต้องนอนส่วนด้านหน้าบ้าน เรียงตามลำดับกันมา
- ที่นอนแต่ละคนควรจะนอนในทิศที่ตรงกับปีเกิดของตัวเอง เริ่มจาก ปีชวด ทิศเหนือ เวียนตามเข็มนาฬิกา เถาะตะวันออก มะเมียทิศใต้ ระกาทิศตะวันตก นั่นคือไล่เรียงไปปีละ 30 องศา ชวด ฉลู ขาล เถาะฯ
- ห้ามนอนในทิศศัตรู ทิศศัตรูคือทิศที่ตรงกันข้ามกับทิศปีเกิดของตัวเอง
- ให้เลือกนอนในทิศคู่มิตรกับทิศปีเกิด คือทิศที่อยู่ออกไปจากทิศปีเกิดเป็นมุม 120 องศา
- ห้ามนอนในทิศคู่ศัตรูกับทิศปีเกิด คือทิศที่อยู่ออกไปจากทิศตรงข้ามกับทิศปีเกิดเป็นมุม 120 องศา
- ห้ามไม่ให้ความชื้นจากห้องน้ำไหลเข้ามาในตัวบ้านเด็ดขาด จะทำให้เสียหายหมด ต้องจัดการระบายลมให้ดีในส่วนนี้ โดยดูทีที่ลมพัดแนวมรสุมตะวันออกเฉียง กับตะวันตกเฉียงใต้
- ภายในบ้านหากมีท่อน้ำรั่ว ท่อน้ำตัน น้ำเน่าส่งกลิ่นเหม็นหมายถึงจุ้ยไม่ดีแล้ว ให้รีบแก้ไข
- ภายในบ้านหากร้อนอบอ้าว อับชื้น หรือมีกลิ่นเหม็น แสดงว่าฮวงไม่ดีแล้ว ต้องรีบแก้ไข
- พระพุทธรูป และศาลเจ้าที่ ควรต้องหันหน้าออกไปทางประตูหน้าบ้าน
- ด้านหลังของพระพุทธรูป และศาลเจ้าที่ ควรเป็นสิ่งที่มันคง ปราศจากการเคลื่อนไหว และกว้างๆ เช่นผนังกำแพง
ทั้งนี้ การออกแบบตกแต่งบ้านขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล หากผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายใจกับการออกแบบตกแต่งแบบไหนก็สามารถทำได้ ทั้ง 39 วิธีเป็นเพียงการการแนะนำเท่านั้น หากเห็นควรวิธีใดเหมาะสมและสามารถทำได้อย่างสบายใจก็นำไปปรับใช้กันดูได้
10 ลักษณะของบ้านที่อยู่แล้วรวย
1. ปลูกต้นสนต้นสนตามหลักของฮวงจุ้ยนั้นจัดว่าเป็นหนึ่งในต้นไม้มงคลที่ควรปลูกไว้ในบ้าน ช่วยส่งเสริมในเรื่องของโชคลาภ ความรัก อีกทั้งยังช่วยเสริมดวงเรื่องการทำงานของคนในบ้านได้อีกด้วย ตำแหน่งที่ควรปลูกไว้คือ บริเวณหน้าบ้านขนาบทั้งทางด้านซ้ายและขวานั่นเอง
2. มีสระน้ำเสริมความร่มเย็นบ้านที่มีสระน้ำ หรือบ่อน้ำอยู่บริเวณหน้าบ้านนั้น นับว่าเป็นทำเลทอง เป็นลักษณะของบ้านที่อยู่แล้วมีความสุข นั่นก็เพราะว่าสายน้ำช่วยส่งเสริมในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ สร้างความร่ำรวยให้แก่ผู้อยู่อาศัย อีกทั้งยังเป็นการช่วยทำให้บ้านร่มรื่นร่มเย็นได้อีกด้วย
3. ต้นไม้สีเขียว ช่วยเพิ่มความรุ่งเรืองบ้านที่มีสีเขียวชอุ่มของต้นไม้ใบไม้อยู่รอบๆบ้านนั้น นับว่าเป็นลักษณะของบ้านที่ดีมากๆเลยล่ะ เพราะตามหลักของฮวงจุ้ยบ้านแล้ว ต้นไม้เป็นตัวแทนของความเจริญรุ่งเรือง เจริญเติบโต และความงอกงาม บ้านไหนที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้ จึงมีโอกาสได้รับพลังงานที่ดีคอยส่งเสริมให้มีแต่ความรุ่งเรืองอยู่เสมอ เจริญก้าวหน้าขนาดนี้จะไม่ร่ำรวยได้ยังไงล่ะเนอะ
4. บ้านแบบถุงทองบ้านที่มีลักษณะฮวงจุ้ยเป็นแบบถุงทองนั้น หมายถึง ที่อยู่อาศัยที่มีรูปร่างด้านหลังกว้างกว่าด้านหน้า เป็นทรงบ้านที่มีลักษณะดี ผู้อยู่อาศัยในบ้านแบบนี้จะมีแต่ความสมบูรณ์ มีโชค มีลาภ ทำให้คนในบ้านอยู่กันอย่างมีความสุข
5. บ้านริมน้ำทำเลทองบ้านริมน้ำนอกจากจะวิวดีบรรยากาศงามแล้ว ยังเป็นหนึ่งในลักษณะของบ้านที่ฮวงจุ้ยดีมากๆอีกด้วย นั่นเพราะลักษณะของแม่น้ำที่โค้งโอบล้อมเข้าหาตัวบ้าน จะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับพลังงานที่ดีคอยเกื้อหนุน ให้ประสบความสำเร็จและชีวิตมีความสุข รวมไปถึงความั่งมีมั่งคั่งอีกด้วย
6. หันหน้าไปทางทิศมงคลบ้านที่หันหน้าทางทิศใต้นั้น เชื่อกันว่าเป็นบ้านที่มีความมงคลตามหลักของฮวงจุ้ย เพราะกระแสลมที่ดีจะสามารถพัดผ่านได้ จึงเป็นสื่อนำพลังมงคลเข้าสู่บ้าน ซึ่งส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยได้รับโชคลาภและความร่มเย็นเป็นสุข
7. ประตูสู่ความสำเร็จประตูหน้าบ้านที่ดีตามหลักของฮวงจุ้ยนั้นจะเรียกกันว่า ตำแหน่งมังกรเขียว ประตูควรอยู่ทางด้านซ้ายมือของตัวบ้าน เพราะตำแหน่งนี้หากมีการเคลื่อนไหวเปิด-ปิด เข้าออกตลอดเวลานั้นจะช่วยส่งเสริมให้มีโชคลาภ และความร่ำรวยเข้ามาอยู่เสมอ
8. บันไดบ้านสะพานโชคบันไดบ้านที่เป็นมงคลนั้นจำนวนขั้นบันไดควรจะเป็นเลขคี่ ซึ่งตำแหน่งที่ดีที่สุด คือ การวางบันไดชิดผนังด้านใดด้านหนึ่งของตัวบ้าน เพราะบันไดบ้านในลักษณะนี้จะช่วยสร้างความเป็นสิริมงคล พร้อมด้วยการเสริมเรื่องโชคลาภ ที่สามารถทำให้คนในบ้านมีความสุขความเจริญได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
9. ลักษณะของบ้านที่ดีบ้านที่ดีตามหลักของฮวงจุ้ยนั้น ควรมีลักษณะเป็นตอนยาวลึก หรือเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า บ้านที่มีความเป็นมงคลนั้น จะช่วยส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีความก้าวหน้า เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทั้งความสุขและเงินทอง
10. ทางเดินเป็นปึกแผ่นในข้อสุดท้ายนี้ลักษณะของบ้านที่อยู่แล้วร่ำรวยนั้นเป็นเรื่องของทางเดินเข้าบ้าน ไม่ว่าระยะทางของทางเดินนั้นจะกว้างหรือยาวขนาดไหนก็ควรจเป็นผืนแผ่นต่อเนื่องราบเรียบเสมอกันหมด ซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวกันนี้จะช่วยเสริมสร้างในเรื่องของความสุข ความกลมเกลียวของคนในครอบครัวให้แนบแน่นเป็นปึกแผ่นนั่นเอง ความสุขภายในบ้าน รวมไปถึงเรื่องของสถานะการเงิน ส่วนใหญ่แล้วน่าจะเกิดขึ้นจากคนที่อยู่ในบ้านซะมากกว่า ต่อให้บ้านเราหลังเล็กแค่ไหน แต่ถ้าครอบครัวเรารักกัน บ้านของเรานั้นก็จะมีแต่ความสุข อยู่ยังไงก็ร่มรื่นร่มเย็น